วิธีเลือกใช้เครื่องสำรองไฟกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ: สำหรับผู้ใช้ทุกระดับ
เครื่องสำรองไฟ หรือ UPS (Uninterruptible Power Supply) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยปกป้องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง ไฟกระชาก หรือไฟตก การเลือกเครื่องสำรองไฟที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และป้องกันการสูญเสียข้อมูลสำคัญ
1. การคำนวณกำลังไฟที่ต้องการ
การเลือกเครื่องสำรองไฟเริ่มต้นจากการคำนวณกำลังไฟที่อุปกรณ์ของคุณต้องการ:
• คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วไป: 300-600 Watt
• จอมอนิเตอร์ LED: 20-100 Watt
• โน้ตบุ๊ก: 50-100 Watt
• เราเตอร์: 5-20 Watt
• เครื่องพิมพ์: 100-500 Watt (ขณะพิมพ์)
วิธีคำนวณ:
1. รวมกำลังไฟของอุปกรณ์ทั้งหมด
2. คูณด้วย 1.2-1.3 เพื่อเผื่อการใช้งานในอนาคต
3. แปลงจาก Watt เป็น VA โดยคูณด้วย 1.4
ตัวอย่าง: คอมพิวเตอร์ (400W) + จอ (50W) + เราเตอร์ (10W) = 460W
460 x 1.2 = 552W
552 x 1.4 ≈ 773VA
ดังนั้น ควรเลือกเครื่องสำรองไฟขนาด 800VA ขึ้นไป
2. ประเภทของเครื่องสำรองไฟ
เครื่องสำรองไฟมี 3 ประเภทหลัก:
a) Standby UPS (Offline UPS):
• ราคาประหยัด
• เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในบ้านหรือสำนักงานขนาดเล็ก
• ใช้เวลาสลับไปใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ประมาณ 2-10 มิลลิวินาที
b) Line-Interactive UPS:
• ราคาปานกลาง
• มีระบบปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ (AVR)
• เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีปัญหาไฟกระชากหรือไฟตกบ่อย
• ใช้เวลาสลับไปใช้พลังงานจากแบตเตอรี่น้อยกว่า 2 มิลลิวินาที
c) Online UPS (Double Conversion UPS):
• ราคาสูง
• ให้การป้องกันสูงสุด ไม่มีเวลาในการสลับแหล่งจ่ายไฟ
• เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรสูง เช่น เซิร์ฟเวอร์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์
3. ระยะเวลาสำรองไฟ
เครื่องสำรองไฟแต่ละรุ่นจะมีระยะเวลาในการสำรองไฟต่างกัน:
• สำหรับการใช้งานทั่วไป: 5-15 นาที เพียงพอสำหรับบันทึกงานและปิดเครื่องอย่างปลอดภัย
• สำหรับการทำงานสำคัญ: 30 นาทีขึ้นไป อาจพิจารณาเครื่องสำรองไฟที่สามารถต่อแบตเตอรี่เพิ่มได้
4. คุณสมบัติพิเศษที่ควรพิจารณา
• ระบบปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ (AVR)
• พอร์ต USB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อสั่งปิดเครื่องอัตโนมัติ
• จอ LCD แสดงสถานะการทำงาน เช่น ระดับแบตเตอรี่ โหลดการใช้งาน
• ช่องเสียบไฟที่มีการสำรองไฟและไม่มีการสำรองไฟแยกกัน
• ระบบป้องกันไฟกระชากสำหรับสายโทรศัพท์หรือสายเคเบิล
5. ขนาดและการติดตั้ง
• แบบตั้งโต๊ะ: เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป ขนาดกะทัดรัด
• แบบตั้งพื้น: เหมาะสำหรับเครื่องสำรองไฟขนาดใหญ่ กำลังไฟสูง
• แบบ Rack-mount: สำหรับติดตั้งในตู้ Rack ใช้ในห้องเซิร์ฟเวอร์
6. การรับประกันและบริการหลังการขาย
• ตรวจสอบระยะเวลารับประกันของตัวเครื่องและแบตเตอรี่
• ศึกษาเงื่อนไขการรับประกัน เช่น การเปลี่ยนแบตเตอรี่ฟรี
• พิจารณาความสะดวกในการเข้าถึงศูนย์บริการ
7. การเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่า
• เครื่องสำรองไฟราคาประหยัด (1,000-3,000 บาท): เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในบ้าน
• เครื่องสำรองไฟระดับกลาง (3,000-10,000 บาท): เหมาะสำหรับสำนักงานหรือผู้ใช้ที่ต้องการคุณสมบัติเพิ่มเติม
• เครื่องสำรองไฟระดับสูง (10,000 บาทขึ้นไป): สำหรับการใช้งานระดับองค์กรหรือกับอุปกรณ์ที่มีความสำคัญสูง
8. ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ
พิจารณาเลือกยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในวงการ เช่น APC, CyberPower, Eaton, หรือ Delta
สรุป: การเลือกเครื่องสำรองไฟที่เหมาะสม
การเลือกเครื่องสำรองไฟที่เหมาะสมจะช่วยปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ พิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา และเลือกเครื่องสำรองไฟที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด การลงทุนในเครื่องสำรองไฟที่มีคุณภาพจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและให้ความอุ่นใจในการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานส่วนตัวหรือในระดับองค์กร