FOR HOME
BUSINESS
GAMING
ข้อจำกัดด้านขนาดของ Apple Watch หมายความว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะยังคงเผชิญกับสิ่งกีดขวางบนถนนหลายจุดตราบเท่าที่มีเซ็นเซอร์เพิ่มเติมเข้ามาเกี่ยวข้อง ถึงกระนั้น Apple ก็สามารถยัดฟีเจอร์มากมายและจะทำต่อไปโดยเริ่มจากการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด น่าเสียดายที่รายงานฉบับหนึ่งระบุว่าผู้ซื้ออาจต้องรอนานถึงเจ็ดปีจึงจะได้เห็นเทคโนโลยีนี้ใช้งานจริง
คุณลักษณะด้านสุขภาพล่าสุดที่แนะนำใน Apple Watch คือการตรวจสอบออกซิเจนในเลือด ในขณะที่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสามารถแนะนำจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้นและเทคโนโลยี microLED ให้กับรุ่นต่อๆ ไป แต่ก็ยังพบปัญหาในการนำเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดออกสู่ตลาดก่อนหน้านี้มาก ตามที่ Mark Gurman จาก Bloomberg ระบุในจดหมายข่าว ‘Power On’ ของเขาที่MacRumors ค้นพบ การเพิ่มนี้อาจใช้เวลาระหว่างสามถึงเจ็ดปีกว่าจะได้ Apple Watch รุ่นต่อไปในอนาคต
เข้าใจง่ายๆ ว่าคุณไม่สามารถฝืนกฎธรรมชาติและรวมเซ็นเซอร์ปริมาณมากไว้ในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กอย่าง Apple Watch ทุกปีที่ผ่านไป ดังนั้นจึงมีเหตุผลเชิงตรรกะว่าทำไมบริษัทจึงใช้เวลานานมากในการนำการตรวจสอบระดับน้ำตาลมาไว้ที่โต๊ะ ในขณะที่ Apple ได้รับการกล่าวขานว่ามีความก้าวหน้าในคุณสมบัตินี้ แต่ก็มีการปรับแต่งอัลกอริธึมและการปรับปรุงเซ็นเซอร์ออนบอร์ดจำนวนมากซึ่งถือว่าจำเป็น
สิ่งสำคัญที่สุดคือ Apple กำลังประสบปัญหาในการลดขนาดเซ็นเซอร์ให้มีขนาดที่สามารถใส่ในสมาร์ทวอทช์ได้อย่างสบาย และเส้นทางดังกล่าวได้พิสูจน์แล้วว่าท้าทายยิ่งกว่า การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดทำงานโดยใช้เทคนิคที่ไม่รุกราน ผู้ใช้จะไม่ต้องทิ่มผิวหนังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ แม้ว่าการทดสอบจะประสบความสำเร็จ แต่ก็มีข้อกำหนดในการได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบจากทางการ
ฟีเจอร์นี้ทำอะไรได้บ้างเมื่อเปิดตัว Apple Watch รุ่นอนาคตอย่างเป็นทางการ โดยจะสามารถแจ้งให้ผู้สวมใส่ทราบว่าตนเป็นเบาหวานล่วงหน้าหรือไม่ เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาหันมาใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น Apple Watch รุ่น Ultra อาจเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น เนื่องจากบริษัทกำลังทดลองกับรุ่นขนาดต่างๆ ที่สามารถรองรับเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยไม่มีปัญหามากมาย เราไม่มีวิธียืนยันข้อมูลนี้ ดังนั้นเราจะแนะนำให้ผู้อ่านรวบรวมความอดทนและรอให้คุณลักษณะนี้มาถึงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า